ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

ซัมซุงส่ง Galaxy S III ชน iPhone 5

ซัมซุงส่ง Galaxy S III ชน iPhone 5

หลังจากที่งาน CES 2012 ได้ผ่านไป ทั่วโลกก็เริ่มจับตาความเคลื่อนไหวของงาน Mobile World Congress ที่กำลังจะจัดให้มีขึ้นปลายเดือนหน้า (27 ก.พ. - 1 มี.ค. 2012) ซึ่งแน่นอนว่า ทางฝั่ง Android ย่อมใช้โอกาสนี้ในการผลักดันสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ออกมาอีกมากมายอย่างแน่นอน หนึ่งในนั้นก็คือ Samsung ที่เตรียมปล่อย Galaxy S III ในงานนี้



รายงานข่าวล่าสุดเป็นข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S III สมาร์ทโฟนสายพันธุ์ Android ที่คาดว่าจะสามารถทำตลาดได้ถล่มทลายไม่แพ้ S II โดยคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung จะมีให้เลือกทั้งรุ่นที่ใช้โพรเซสเซอร์ "ดูอัลคอร์" และ "ควอดคอร์" พร้อมด้วยกล้อง 12 ล้านพิกเซล ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้จะเป็น Android 4.0 ที่ได้รับการปรับแต่ง UI เป็น TouchWiz หน้าจอสัมผัสขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ 1,280 x 720 พิกเซล เช่นเดียวกับ Galaxy Nexus


นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยความจำ และสตอเรจที่จะมาพร้อมกับ Samsung Galaxy S III อีกด้วย โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่นเช่นเดียวกันคือ รุ่นหน่วยความจำ 1GB สตอเรจ 16GB และ 2GB สตอเรจ 64GB เอ่อ...คุณผู้อ่านเว็บไซต์ arip คิดเหมือนผมไหมครับว่า มันเทียบได้กับโน้ตบุ๊คแรงๆ ตัวหนึ่งเลยนะเนี่ย สำหรับกำหนดการวางตลาดจะเป็นช่วงครึ่งปีหลังของปี 2012 งานนี้ Samsung คงตั้งใจให้ Galaxy S III ต้อนรับน้องใหม่ iPhone 5 อย่างแน่นอน

ที่มา / http://www.arip.tv

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

[ประชาสัมพันธ์] เที่ยวชมดู'บีโอไอแฟร์ 2011' สัมผัสเทคโนโลยีอนาคต (boi fair 2011)

เที่ยวชมดู'บีโอไอแฟร์ 2011' สัมผัสเทคโนโลยีอนาคต (boi fair 2011) วันที่ 5 – 20 มกราคม 2555



นิทรรศการบีโอไอแฟร์ 2011 ซึ่งเริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ 5 มกราคมที่ผ่านมา และจะจัดเรื่อยไปจนถึงวันที่ 20 มกราคมนี้นั้น ถือเป็นงานนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ในรอบทศวรรษ ภายใต้แนวคิด รวมพลังน้ำใจ “โลกสดใส ไทยยั่งยืน” หรือ “Going Green for the Future” ภาคเอกชนที่ร่วมงานจะมานำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัยสำหรับสร้างแบรนด์สีเขียว

ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งใจจัดงานนี้เพื่อแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพ และการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต

อ่านดูแล้วอย่าเพิ่งเข้าใจว่า เป็นเรื่องห่างไกลประชาชนคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นนักลงทุน เพราะการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมของ 84 พาวิลเลี่ยนที่จัดแสดงบริเวณโซนกลางแจ้ง ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี ล้วนแต่นำเสนอความล้ำสมัยได้อย่างน่าสนใจ สื่อความหมายให้เข้าใจได้ง่าย ทั้งที่บอกเล่าโดยพริตตี้ หรือผ่านทางพรีเซนเทชั่นน่าชม ประกอบตัวอย่างจากเรื่องใกล้ตัว




เป็นเช่นนี้แล้ว ผู้เข้าชมงานจึงได้รับความรู้ เข้าชมด้วยความเพลิดเพลิน และสนุกกับกิจกรรมหรือการทดลองใช้งาน ภายในเวลาที่เหมาะสม โดยผู้จัดแต่ละพาวิลเลี่ยนมักกำหนดเวลาการเข้าชมเป็นรอบๆ อาจทุกๆ 15-30 นาที เพื่อควบคุมจำนวนผู้ชมแต่ละรอบ ให้ได้รับความสะดวกสบายในการเข้าชมและสัมผัสเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง


ตัวอย่างความสนุกสนานผสานความรู้เรื่องราวของเทคโนโลยีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พาวิลเลี่ยนของพานาโซนิค มีการจำลองบรรยากาศสวนสไตล์ญี่ปุ่น และยกเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นคุณปู่คุณย่ามาให้ชม อีกทั้งยังมีบ่อปลาคาร์ฟจำลองคล้ายมีชีวิตชีวาจริงๆ เพราะเพียงแค่ยื่นมือไปใกล้ๆ ฝูงปลาก็พร้อมว่า
ยออกห่างโดยพลัน

มีการฉายให้ชมเทคโนโลยีอนาคตเต็มรูปแบบ Eco Life Technology ในการใช้ชีวิตประจำวันควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน จัดตัวอย่างห้องนอน ห้องครัว ร้านค้า ที่ใช้เทคโนโลยี SEG (Smart Energy Gateway) ซึ่งเป็นระบบควบคุมพลังงานอัจฉริยะ แจ้งจำนวนการใช้ และสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นผ่านอินเตอร์เน็ตได้ และชมสารคดีสั้นบอกเล่าที่มาของต้นแบบนวัตกรรมอันทันสมัยผ่านจอพลาสมา 3 มิติ ขนาด 152 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากพานาโซนิคแล้ว พาวิลเลี่ยนอื่นๆ ยังมีเทคโนโลยีสุดล้ำมาเสนอ อาทิ เครื่องถ่ายเอกสารหนึ่งเดียวในโลกที่ลบข้อความในกระดาษของโตชิบา ทีวีโปร่งแสงของซัมซุง หุ่นยนต์แห่งโลกอนาคตและสุดยอดยานพาหนะไฟฟ้าเคลื่อนที่ส่วนบุคคลแบบพกพาของโตโยต้า ยานยนต์แห่งอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบจากเชฟโรเล็ต และยางแห่งอนาคตของมิชลิน ที่ทาให้รถสามารถขับเคลื่อนได้โดยไม่ใช้เครื่องยนต์

อีกทั้งสามารถเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษครั้งหนึ่งในชีวิต เช่น แผ่นดินไหว 7.2 ริกเตอร์ กับบ้านรองรับแผ่นดินไหวของเอสซีจี เดินทางไปเยือนพื้นผิวของดวงจันทร์ผ่านกล้องและเลนส์ซูมระยะไกลที่สุดที่มีในโลกของแคนอน ทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงเสมือนจริงของฮิตาชิ และร่วมผจญภัยแบบ 4 มิติ ที่พาวิลเลี่ยนปตท. ซึ่งมีไดโนเสาร์มาสร้างเซอร์ไพรซ์ในเส้นทางผจญภัยด้วย


และเนื่องจากการจัดงานในครั้งนี้ ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้เพื่อส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน จึงได้จัดให้มี “ศาลาศรัทธาศรม” (Royal Pavilion) อาคารที่ถูกเนรมิตเป็นรูปเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ถ่ายทอดประสบการณ์การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ระหว่างน้ำ ป่า ดิน คน ตามแนวพระราชดำริ พร้อมซาบซึ้งกับการแสดงของศิลปินนักวาดภาพด้วยทราย หรือ Sand Animation ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ และเลือกซื้อสินค้าจากโครงการในพระราชดำริ

นอกจากนี้ ยังมีโซนนิทรรศการภายในอาคารชาเลนเจอร์ 1-3 มีทางเดินหรือสกายวอล์กเชื่อมจากโซนกลางแจ้งไปยังโซนดังกล่าว ภายในมีการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษจากผู้ผลิตโดยตรง จำนวนกว่า 3,000 บูธ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษจากผู้ผลิตโดยตรง จำนวนกว่า 3,000 บูธ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน ของแต่งบ้าน อาหาร และเสื้อผ้า พร้อมรับบริการให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาหลังน้ำท่วม ทั้งบ้าน ประกันภัย และเครื่องเรือน โดยในโซนนี้จัด ระหว่างวันที่ 5-13 มกราคมนี้

ผู้ที่สนใจเข้าชม บีโอไอแฟร์เปิดให้เข้าชมระหว่างเวลา 10.00-22.00 น. หากเดินทางโดยรถส่วนตัว สถานที่จอดรถบริเวณอิมแพ็ค เมืองทองธานี รองรับรถได้ราว 7,000 คัน แล้วยังมีจุดจอดรถที่เรียกว่า จอดแล้วจร หรือ Park & Ride มีรถขสมก.สายพิเศษรับ-ส่งไปยังบริเวณงาน โดยมีการติดข้อความบนกระจกหน้ารถว่า “รถคันนี้เข้างานบีโอไอแฟร์2011” จุดจอดรถเหล่านี้มีทั้งหมด 7 แห่ง รวมแล้วจอดได้ 7,400 คัน

ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่ง 3 แห่งนี้จอดได้ทุกวัน (เฉพาะท่าอากาศยานฯ และกรมอุตุฯ ผู้ร่วมงานต้องใช้บริการแอร์พอร์ตลิงค์ หรือบีทีเอสมายังสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตเพื่อขึ้นรถอิมแพ็คลิงค์), บริษัท ทีโอที จากัด (มหาชน), ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ, บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน), และศูนย์ เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (คิดค่าบริการจอดรถ) 4 แห่งนี้จอดได้เฉพาะเสาร์-อาทิตย์

หากต้องการติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมงานบีโอไอได้ที่
http://twitter.com/BOIFair2011, http://www.facebook.com/NongChangJumBOI2011, http://twitter.com/ChangJumbo_I, www.boifair2011.com, และ0-2553-8111 ต่อ 8254

ที่มา / http://news.mthai.com

Samsung Galaxy S III จะเปิดตัวที่ MWC 2012

Samsung Galaxy S III จะเปิดตัวที่ MWC 2012


ปี 2012 ตลาดสมาร์ทโฟนยังคงดุเดือด โดยเฉพาะ Apple เอง คงต้องมาลุ้นกันว่า iPhone 5 จะสามารถต่อกรกับเหล่าบรรดาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ สายพันธุ์ Android ที่เตรียมรุกอย่างเต็มที่ในปีหน้า ล่าสุดมีข่าวออกมาจากเว็บไซต์ ETNews ของเกาหลีเปิดเผยออกมาแล้ว Samsung เล็งเปิดตัว Galaxy S III ที่งาน Mobile World Congress 2012 ที่จะจัดขึ้นในกรุงบาเซโลน่า ประเทศสเปน ช่วงวันที่ 27 ก.พ. ถึง 1 มี.ค. 2012
ทั้งนี้ทางเว็บไซต์เปิดเผยอีกด้วยว่า ในงานดังกล่าว ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับสมาร์ทโฟนสายพันธุ์ Android ที่พาเหรดออกมาเปิดตัวกันอย่างมากมาย โดยนอกจากจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดอย่าง Android 4.0 Ice Cream Sandwich แล้ว ภายในเครื่องยังแรงจัดด้วยคอวดคอร์โพรเซสเซอร์อีกด้วย ซึ่งหมายถึง ประสิทธิภาพการทำงานของสมาร์ทโฟน Android ปีหน้าจะทิ้งห่างเจ้าตลาด iPhone ค่อนข้างมากทีเดียว อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูหมัดเด็ดของ Apple สำหรับ iPhone 5 ด้วยเหมือนกัน


กลับมาที่ข้อมูลของ Samsung Galaxy S III กันบ้างดีกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีข้อมูลหลุดรั่วออกมาสำหรับสเป็กเครื่อง โดยงานนี้คุณผู้อ่านที่เพิ่งถอย Galaxy Nexus หรือ Galaxy S II อาจจะรู้สึกปวดตับเล็กน้อย เนื่องจาก Galaxy S III จะมาพร้อมกับโพรเซสเซอร์"ควอด-คอร์" ความเร็ว 2GH หน่วยความจำ 2GB กล้อง 10 ล้านพิกเซลพร้อมความสามารถในการเล่น และบันทึกวิดีโอฟูลไฮเดฟฯ 1080p แถมยังมีสตอเรจภายในมากถึง 32GB ซึ่งแน่นอนว่า มันทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ICS (ทั้งหมดนี่มันสเป็กโน้ตบุ๊ค หรือมือถือกันแน่?) ที่น่าติดตามกันต่อไปก็คือ Galaxy S II สามารถสร้างสถิติยอดขายที่่น่าสนใจไว้ในปี 2011 โดยสามารถขายได้ 3 ล้านเครื่องภายใน 55 วัน แล้วสำหรับ Samsung Galaxy S III ที่แรงซะขนาดนี้ จะสามารถทำลายสถิติสวยหรูนี้ได้ หรือไม่?

ที่มา / http://www.arip.co.th

อัพเดทข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ ไอแพด 3 (iPad 3)

อัพเดทข่าวล่าสุดเกี่ยวกับ ไอแพด 3 (iPad 3)


[19-มกราคม-2555] ข่าว ไอแพด 3 (iPad 3) อัพเดทในวันนี้ เปลี่ยนจากเรื่องของ ข่าวเปิดตัว ไอแพด 3 (iPad 3) มาเป็นเรื่องของเคส ไอแพด 3 (iPad 3) กันบ้างครับ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตเคส ที่มีชื่อว่า Chinee จากประเทศจีน ได้เผยโฉม เคสใส่ ไอแพด (iPad) รุ่นใหม่ หรือ ไอแพด 3 (iPad 3) โดยข้อมูลเกี่ยวกับดีไซน์ของ ไอแพด 3 (iPad 3) นั้น ตัวแทนจาก Chinee เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลวงในจากคนของบริษัท Apple ว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีตัวเครื่องที่หนากว่า ไอแพด 2 (ipad 2) ประมาณ 1 มิลลิเมตร

อย่างไรก็ดี ทาง Chinee ได้เรียกชื่อว่า ไอแพด 2S (iPad 2s) แทน ไอแพด 3 (iPad 3) ซึ่งอ้างอิงจาก ไอโฟน 4S (iPhone 4S) โดยอักษร S เน้นถึงการเปลี่ยนสเปคภายในตัวเครื่อง มากกว่าที่จะเปลี่ยนดีไซน์เครื่องนั่นเอง ซึ่งในตอนนี้ เคสดังกล่าว มีจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


สำหรับสเปคของ ไอแพด 3 (iPad 3) ตามข่าวลือ ได้แก่ ตัวเครื่องใช้ระบบประมวลผลแบบ Quad-core Processor, หน้าจอแบบ Retina Display, รองรับการใช้งาน Siri, รองรับเครือข่าย 4G LTE และมีการปรับปรุงคุณภาพของกล้องถ่ายรูป ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอีกด้วย


---------------------------------------
รายละเอียดเพิ่มเติม : 9to5mac.com


สเปคของ ไอแพด 3 (iPad 3) จะเป็นอย่างไร?


ใกล้เปิดตัวเข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับ ไอแพด 3 (iPad 3) ที่ตอนนี้ สเปคของ ไอแพด 3 (iPad 3) เริ่มมองเห็นภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ครับ กับข่าวลือที่ในระยะหลัง หลายๆ เว็บเริ่มเสนอข่าวที่ใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก ไปดูกันครับว่า สเปคของ ไอแพด 3 (iPad 3) จะเป็นอย่างไร และจะแตกต่างจาก ไอแพด 2 (iPad 2) มากน้อยขนาดไหน

ไอแพด 3 (iPad 3) หน้าจอแบบ Retina Display

ก่อนที่ ไอแพด 2 (iPad 2) จะเปิดตัวนั้น มีหลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ว่า ไอแพด 2 (iPad 2) จะมีจอแสดงผลแบบ Retina Display ซึ่งแน่นอนว่า จุดนี้ ทำเอาหลายคนผิดหวังไปตามๆ กันครับ และส่วนใหญ่ก็คาดหวังว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีหน้าจอแบบ Retina Display หรือไม่ อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวจาก Digital Trends และ DigiTimes ได้ระบุว่า บางที Apple อาจจะใช้จอแบบ AMOLED หรือจอที่รองรับ Full HD ที่ แท็บเล็ต ส่วนใหญ่ในตอนนี้ สามารถทำได้

ไอแพด 3 (iPad 3) ใช้ชิพเซ็ท Apple A6 Processor



เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีข่าวว่า Apple กำลังทดสอบชิพเซ็ท Apple A6 Processor ซึ่งเป็นชิพเซ็ทระดับ Quad-core Processor จึงมีความเป็นได้ว่า ไอแพด 3 (iPad 3) น่าจะเป็นแท็บเล็ตแบบ Quad-core Processor ครับ

ไอแพด 3 (iPad 3) จอแสดงผลละเอียดขึ้น แต่ขนาดหน้าจอเท่าเดิม

เกี่ยวเนื่องจากหน้าจอแบบ Retina Display จึงทำให้ ไอแพด 3 (iPad 3) น่าจะมีการปรับความละเอียดของหน้าจอให้ละเอียดขึ้นกว่าเดิมครับ โดยจะละเอียดถึง 2048x1536 พิกเซล เลยทีดียว (iPad 2 ความละเอียดอยู่ที่ 1024x768 พิกเซล) พูดง่ายๆ ก็คือว่า ละเอียดเพิ่มขึ้นด้านละ 2 เท่าครับ นอกจากนี้ หน้าจอของ ไอแพด 3 (iPad 3) จะสว่างขึ้นกว่าเดิมด้วย เนื่องจากมีการเพิ่มแผงไฟ LED Light Bar นั่นเอง

ไอแพด 3 (iPad 3) มีการปรับเปลี่ยนรูปร่าง และหนากว่า iPad 2 เล็กน้อย

คำว่า หนากว่าในทีนี้ จริงๆ แล้ว ไอแพด 3 (iPad 3) จะหนากว่า ไอแพด 2 (iPad 2) เพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น เพื่อให้รองรับกับวัสดุภายในตัวเครื่อง ที่จะมีขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีการปรับส่วนโค้งของตัวเครื่องเล็กน้อยด้วย แต่โดยรวมๆ แล้ว ไอแพด 3 (iPad 3) ก็จะมีรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับ ไอแพด 2 (iPad 2) ครับ

ไอแพด 3 (iPad 3) แบตเตอรี่อึดขึ้นกว่าเดิม

สำหรับสเปคโหดๆ ตามข้อมูลด้านบน แบตเตอรี่ความจุเดิมๆ อาจจะรองรับการใช้งานไม่ไหวครับ (ถ้าหากไหวก็คงได้ไม่กี่ชั่วโมง) ว่ากันว่า ไอแพด 3 (iPad 3) แบตเตอรี่จะมีความจุถึง 14,000mAh เลยทีเดียว เพื่อให้รองรับกับการใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงนั่นเอง

ไอแพด 3 (iPad 3) กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

จริงๆ แล้ว การใช้งาน ไอแพด 3 (iPad 3) ในเรื่องของกล้องถ่ายรูปนั้น ถือว่า ถูกนำมาใช้งานน้อยมากๆ เพราะน้อยคนนักที่จะยกกล้องบน iPad มาถ่าย เนื่องจากขนาดที่ใหญ่นั่นเอง แต่ข่าวล่าสุดนั้น ระบุว่า ไอแพด 3 (iPad 3) กล้องด้านหลังจะละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล และคาดว่า น่าจะเป็นกล้องตัวเดียวกับที่ใช้บน iPhone 4S เสียด้วยครับ

ส่วนกล้องด้านหน้า จะเป็นกล้องแบบ HD สำหรับการใช้งาน FaceTime นั่นเอง



ราคา ไอแพด 3 (iPad 3)

ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีการพูดถึงราคาของ ไอแพด 3 (iPad 3) นะครับ แต่สำหรับราคา ไอแพด 2 (iPad 2) จะสังเกตได้ว่า ราคาเปิดตัว แทบไม่ต่างจาก iPad 1 เท่าไหร่นัก นั่นคือ เปิดตัวที่ 499$ สำหรับรุ่น Wi-Fi 16GB จึงมีความเป็นไปได้ที่ ไอแพด 3 (iPad 3) จะมีราคาเปิดตัวที่ไม่ต่างจาก iPad 1 และ ไอแพด 2 (iPad 2) ครับ



วันเปิดตัว ไอแพด 3 (iPad 3)

แหล่งข่าวแรกได้ระบุว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะเปิดตัวหลังจาก ไอแพด 2 (iPad 2) เปิดตัวไปได้ 6 เดือน ถ้าอ้างอิงคำพูดนี้ นั่นหมายความว่า ไอแพด 3 (iPad 3) จะเปิดตัวประมาณเดือนกันยายนครับ ในขณะที่อีกแหล่งข่าวได้อ้างอิงถึง Product Cycle ของทาง Apple ที่ระบุว่า iPad นั้น จะอยู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็แสดงว่า ไอแพด 3(iPad 3) จะเปิดตัวก็ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ปี 2012 ครับ

สำหรับข้อมูลดังกล่าวข้างต้น ยังคงเป็นข่าวลือ และการคาดคะเนอยู่นะครับ ตอนนี้คงยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ ซึ่งข่าวคราวของ ไอแพด 3 (iPad 3) เราจะนำเสนอให้ทุกท่านทราบอย่างแน่นอนครับ


ที่มา / http://www.techmoblog.com